วันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2554

การใช้สารสนเทศตามกฎหมายและจริยธรรม

    การบังคับใช้กฎหมาย   เนื่องมาจากการที่ปัญหาสังคมที่เกิดจากเทคโนโลยีสารสนเทศอาจจะรุนแรง ดังนั้นจึงจำเป็นจะต้องระบุข้อกำหนดทางด้านกฎ ระเบียบ ข้อบังคับบทลงโทษ หรือสัญญาที่จะต้องปฏิบัติตามเพื่อป้องกันปัญหาสังคมที่มากับเทศโนโลยีสารสนเทศ
    การใช้จริยธรรม   เริ่มจากการสร้างจริยธรรมโดยการกระทำกิจกรรมด้วยความระมัดระวังไม่สร้างความเดือดร้อนเสียหายต่อผู้อื่น สร้างความเข้มแข็งให้กับตนเองโดยพึงรำลึกอยู่เสมอว่าไม่ลุ่มหลงกิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่งมากจนเกินไป ตลอดจนคิดไตร่ตรองให้รอบคอบซึ่งถือว่าเป็นข้อปฏิบัติที่จำเป็นในยุคของเทคโนโลยีสารสนเทศนี้  ใช้แนวทางการควบคุมสังคมโดยใช้วัฒนธรรมที่ดีโดยการให้เกียรติซึ่งกันและกัน การสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน ผู้รับผิดชอบในการจัดการด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศและสมาชิกของสังคมพึงตระหนักถึงภัยอันตรายที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีสารสนเทสและหาแนวทางป้องกันภัยอันตรายเหล่านั้นที่ไม่เหมาะกับเด็กและเยาวชน จากนั้นก็ใช้แนวทางการเข้าสู่มาตรฐานการบริหารจัดการการให้บริการเทคโนโลยีสารสนเทศ ในปัจจุบันองค์กรต่างๆ ได้นำเสนอมาตรฐานที่เกี่ยวกับการให้บริการเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งมาตรฐานเหล่านี้ได้ผ่านการพิจารณาไตร่ตรองอย่างดีจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ สามารถช่วยลดภัยอันตรายจากเทคโนโลยีสารสนเทศได้
     การใช้จริยธรรมเพื่อแก้ปัญหาสังคมที่เกิดจากเทคโนโลยีสารสนเทส เป็นเรื่องของการหาสมดุลย์ในการใช้จริยธรรมในการกำหนดนโยบายสารสนเทศ เพื่อเฉลยข้อกังขาในวัตถุประสงค์ซ่อนเร้นที่มากับเทคโนโลยี โดยต้องคำนึงถึงความเป็นมนุษย์ อารมณ์ ความรู้สึกนึกคิด ที่เกิดขึ้นจริงและสามารถถูกกำหนดขึ้นได้ในสังคมยุคสารสนเทศนี้

วันอังคารที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2554

ที่มาของการปรับเปิด-ปิดภาคเรียน(ใหม่)ของมหาวิทยาลัยตามอาเซียน

   มาจากการที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ได้มีมติที่จะเลื่อนการเปิดภาคเรียนของมหาวิทยาลัยทั้งหมดทั่วประเทศ ให้เวลาเปิดและปิดภาคเรียนของประเทศไทยตรงกับประเทศสมาชิกอาเซียน ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนปี 2558   ในทางปฏิบัตินั้น โดยทาง ทปอ. คาดการณ์ไว้ว่าจะเริ่มต้นได้ในปี 2555 เพื่อให้สอดคล้องกับการเปิด-ปิดมหาวิทยาลัยในกลุ่ม   อาเซียนนั้น จากเดิมที่เปิดภาคเรียนที่ 1 เดือน มิ.ย. - ต.ค.และภาคเรียนที่ 2 เดือน พ.ย.-มี.ค.มาเป็นภาคเรียนที่ 1เดือน ก.ย.-ธ.ค.และภาคเรียนที่ 2 เดือน ม.ค.-พ.ค.

วิธีป้องกันไวรัส

1. ทำการอัพเดทแพตช์ระบบวินโดวส์และโปรแกรมแอพพลิเคชันอย่างสม่ำเสมอ สำหรับผลิตภัณฑ์ของไมโครซอฟท์สามารถทำการอัพเดทผ่านอินเทอร์เน็ตได้จากเว็บไซต์ http://update.microsoft.com/microsoftupdate สำหรับผลิตภัณฑ์ของบริษัทอื่นๆ ติดตามข่าวการอัพเดทเพื่อปิดช่องโหว่ความปลอดถัยได้จากเว็บไซต์ของเจาของผลิตภัณฑ์นั้นๆ
2. ติดตั้งโปรแกรม Antivirus ซึ่งมีให้เลือกใช้งานหลากโปรแกรมหลายยี่ห้อ ทั้งโปรแกรม Antivirus เชิงพานิชย์และแบบฟรีแวร์ จะใช้โปรแกรมใดยี่ห้อใดก็แล้วแต่ความชอบส่วนบุคคล แต่ที่สำคัญต้องทำการอัพเดทไวรัสซิกเนเจอร์อย่างสม่ำเสมอ (แนะนำให้ทำการอัพเดททุกวันถ้าทำได้) สำหรับวิธีการอัพเดทไวรัสซิกเนเจอร์นั้น จะมีขั้นตอนการคอนฟิกแตกต่างกันไปตามแต่ละโปรแกรม ดังนั้นให้ศึกษาได้จากคู่มือของโปรแกรมที่ท่านใช้งานให้เข้าใจ และหลังจากทำการคอนฟิกเสร็จแล้วให้ตรวจสอบให้แน่ใจว่าการอัพเดทประสบความสำเร็จ นอกจากนี้โปรแกรมป้องกันไวรัสบางยี่ห้อยังมีบริการให้ดาวน์โหลดไวรัสซิกเนเจอร์เพื่อนำไปทำการอัพเดทแบบแมนนวลอีกด้วย
3. ติดตั้งใช้งานโปรแกรม Personal Firewall หรือ Windows Firewall ในกรณีผู้ใช้ Windows XP หรือ Vista โดยโปรแกรม Firewall จะทำหน้าที่ป้องกันคอมพิวเตอร์จากการบุกรุกของไวรัส มัลแวร์และแฮกเกอร์ ในกรณีผู้ใช้ Windows XP หรือ Vista แนะนำให้คอนฟิก Windows Firewall ให้เริ่มทำงานโดยอัตโนมัติพร้อมกับระบบวินโดวส์ สำหรับโปรแกรม Personal Firewall นั้น มีให้เลือกใช้ทั้งแบบโปรแกรมเชิงพานิชย์และแบบฟรีแวร์
4. ติดตั้งโปรแกรม Anti Spyware เช่นเดียวกับโปรแกรม Anti Virus และ Personal Firewall คือ มีให้เลือกใช้งานหลากโปรแกรมหลายยี่ห้อ ทั้งโปรแกรมเชิงพานิชย์และแบบฟรีแวร์ และที่สำคัญคือต้องทำการอัพเดทสปายแวร์ซิกเนเจอร์อย่างสม่ำเสมอ
5. ในการใช้งานทั่วไป เช่น การพิมพ์งาน การท่องอินเทอร์เน็ต แชต ดูหนังฟังเพลง แนะนำให้เข้าใช้งานวินโดวส์ด้วยแอคเคาท์ธรรมดา คือ Limited user สำหรับ Windows XP และ Standard user สำหรับ Windows Vista
6. สำหรับผู้ใช้ Windows Vista ให้เปิดใช้งาน User Account Control (UAC) ถึงแม้ว่าผู้ใช้บางท่านจะไม่ค่อยชอบการทำงานของ UAC มากนัก เนื่องจากมันจะแจ้งเตือนบ่อยจนน่ารำคาญ แต่ UAC ก็สามารถเพิ่มความปลอดภัยให้การระบบ เนื่องจากมันจะทำหน้าที่ตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงระบบและแจ้งให้ผู้ใช้เป็นคนตัดสินใจว่าจะอนุญาตให้ทำการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวหรือไม่

7. ไม่ติดตั้งโปรแกรมที่ดาวน์โหลดมาจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ เช่น โปรแกรมที่ดาวน์โหลดมาจากเว็บไซต์ที่ให้ดาวน์โหลดโปรแกรมละเมิดลิขสิทธิ์ (แนะนำว่าไม่ควรดาวน์โหลดโปรแกรมจากเว็บไซต์ประเทนี้) โปรแกรมที่ดาวน์โหลดมาจาก BitTorrent (เฉพาะบางไซต์ครับ) เป็นต้น เนื่องจากส่วนมากแล้วโปรแกรมที่ดาวน์โหลดมากจากเว็บไซต์ที่ยกตัวอย่างมานั้นจะมีมัลแวร์แอบแฝงมาด้วย
8. ไม่ควรเปิดอ่านอีเมลและไฟล์ที่แนบมากับอีเมลที่มาจากแหล่งที่ไม่รู้จักหรือไม่น่าเชื่อถือ (แนะนำให้ทำการลบอีเมลลักษณะนี้ทิ้ง) และถ้าจำเป็นต้องเปิดไฟล์ที่แนบมากับอีเมลให้ทำการสแกนไฟล์ด้วยโปรแกรม Anti Virus ก่อนเปิดทุกครั้ง
9. ปิดการใช้งานฟังก์ชัน Autoplay เพื่อป้องกันไม่ให้ไวรัสที่แพร่ระบาดผ่านทางสื่อเก็บข้อมูลแบบพกพาใช้เป็นช่องทางในการรันไฟล์ไวรัสโดยอัตโนมัติ
10. ปิดเซอร์วิส Windows Script Host ซึ่งจะช่วยป้องกันไวรัสประเภท VB Script (.vbs)

11. ไม่เข้าเว็บไซต์ที่มีการแอบแฝงโค้ดประสงค์ร้าย โดยข้อนี้อาจจะต้องใช้โปรแกรมหรือฟีเจอร์บางอย่างช่วยในการแยกแยะ ตัวอย่างเช่น โปรแกรม Site Advisor ของ McAfee

โปรแกรมแสกนไวรัสแฮนดี้ไดร์


BitDefender USB Immunizer 1.5.0.1 โปรแกรมสแกนไวรัส ตรวจจับและลบไวรัสใน Handy drive, Flash Drive และ USB flash drive     1.  BitDefender USB Immunizer เป็นโปรแกรมจากทางค่ายแอนตี้ไวรัส BitDefender ครับ ซึ่งตัว USB Immunizer โปรแกรมนี้จะทำการป้องกันและกำจัดไวรัสในอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล อัพเดทเวอร์ชันใหม่ล่าสุด BitDefender USB Immunizer 1.5 โดยโปรแกรมจะทำการตรวจจับไวรัสในอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลของคุณไม่ว่าจะเป็น Handy drive, Flash Drive และ USB flash drive ให้หมดจด (ยกเว้นสำหรับอุปกรณ์ CD / DVD - ROM) โปรแกรมจะทำงานอัตโนมัติอย่างรวดเร็ว หากตรวจพบไวรัสตัวโปรแกรมจะทำการสร้างโฟลเดอร์ Autorun.inf เพื่อป้องกันเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณให้ปลอดภัยจากไวรัสเหล่านั้น

Anti Removable Disk Virus (ARDV) by Trackerx90 โปรแกรมป้องกันไวรัสที่มากับแฮนดี้ไดร์ Handy Drive    
     2.Anti Removable Disk Virus หรือที่เรียกว่า โปรแกรม ARDV คือโปรแกรมสำหรับป้องกันไวรัสที่มากับแฮนดี้ไดร์ และใช้สแกนไวรัส Scan Virus พวก thunbdrive ได้แบบตลอดเวลา realtime สามารถป้องกันไวรัส Autorun และไฟล์ที่ต้องสงสัยว่าอาจเป็นไวรัส ต่างๆได้ ผู้ใช้สามารถเลือกที่จะลบไฟล์ต้องสงสัยได้ทันที  พัฒนาโดยคุณธงชัย แสงสว่าง โปรแกรมมีขนาดเล็กทำงานรวดเร็ว โดยจะทำงานอัตโนมัติทันทีที่มีการเชื่อมต่อเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์





     3.AutoRunExterminator เป็นโปรแกรมสแกนไวรัสแฮนดี้ไดร์ Flash Drive, handy drive และ USB Drive โปรแกรมนี้สร้างขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการกระทำของไวรัสที่ใช้ Flash หรือ Thumb drive เป็นหลักตัวโปรแกรมสามารถปกป้องคอมพิวเตอร์ของคุณแบบเรียลไทม์ และลบไวรัสจากแฮนดี้ไดร์ของท่าน พร้อมทั้งแก้ไขปัญหาต่างๆ ทั้ง RegEdit, Task Manager, Folder Option และการกระทำต่างๆ รวมทั้ง Title Bar ของ IE และนอกจากนี้ แก้ hacked by ได้ด้วย ปิด Auto Run แบบถาวรอัตโนมัติ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นอีก และก็ ป้องกันแบบถาวร ไม่ต้องอัพเดตฐานข้อมูลไวรัสบ่อยๆ ...

วันพุธที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2554

ไวรัสมี 5 ประเภท



  1.บูตไวรัส (boot virus) คือไวรัสคอมพิวเตอร์ที่แพร่เข้าสู่เป้าหมายในระหว่างเริ่มทำการบูตเครื่อง ส่วนมาก มันจะติดต่อเข้าสู่แผ่นฟลอปปี้ดิสก์ระหว่างกำลังสั่งปิดเครื่อง เมื่อนำแผ่นที่ติดไวรัสนี้ไปใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆ ไวรัสก็จะเข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์ตอนเริ่มทำงานทันทีบูตไวรัสจะ ติดต่อเข้าไปอยู่ส่วนหัวสุดของฮาร์ดดิสก์ ที่มาสเตอร์บูตเรคคอร์ด (master boot record) และก็จะโหลดตัวเองเข้าไปสู่หน่วยความจำก่อนที่ระบบปฏิบัติการจะเริ่มทำงาน ทำให้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
  2.ไฟล์ไวรัส (file virus) ใช้เรียกไวรัสที่ติดไฟล์โปรแกรม เช่นโปรแกรมที่ดาวน์โหลดจากอินเทอร์เน็ต นามสกุล.exe โปรแกรมประเภทแชร์แวร์เป็นต้น
  3.มาโครไวรัส (macro virus) คือไวรัสที่ติดไฟล์เอกสารชนิดต่างๆ ซึ่งมีความสามารถในการใส่คำสั่งมาโครสำหรับทำงานอัตโนมัติในไฟล์เอกสารด้วย ตัวอย่างเอกสารที่สามารถติดไวรัสได้ เช่น ไฟล์ไมโครซอฟท์เวิร์ด ไมโครซอฟท์เอ็กเซล เป็นต้น
  4.หนอน (Worm) เป็นรูปแบบหนึ่งของไวรัส มีความสามารถในการทำลายระบบในเครื่องคอมพิวเตอร์สูงที่สุดในบรรดาไวรัสทั้ง หมด สามารถกระจายตัวได้รวดเร็ว ผ่านทางระบบอินเทอร์เน็ต ซึ่งสาเหตุที่เรียกว่าหนอนนั้น คงจะเป็นลักษณะของการกระจายและทำลาย ที่คล้ายกับหนอนกินผลไม้ ที่สามารถกระจายตัวได้มากมาย รวดเร็ว และเมื่อยิ่งเพิ่มจำนวนมากขึ้น ระดับการทำลายล้างยิ่งสูงขึ้นอื่นๆ
   5.โทรจันม้าโทรจัน (Trojan) คือโปรแกรมจำพวกหนึ่งที่ถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อแอบแฝง กระทำการบางอย่าง ในเครื่องของเรา จากผู้ที่ไม่หวังดี ชื่อเรียกของโปรแกรมจำพวกนี้ มาจากตำนานของม้าไม้แห่งเมืองทรอยนั่นเอง ซึ่งการติดนั้น ไม่เหมือนกับไวรัส และหนอน ที่จะกระจายตัวได้ด้วยตัวมันเอง แต่โทรจัน (คอมพิวเตอร์)จะถูกแนบมากับ อีการ์ด อีเมล์ หรือโปรแกรมที่มีให้ดาวน์โหลดตามอินเทอร์เน็ตในเว็บไซต์ใต้ดิน และสุดท้ายที่มันต่างกับไวรัสและเวิร์ม คือ มันจะสามารถเข้ามาในเครื่องของเรา โดยที่เราเป็นผู้รับมันมาโดยไม่รู้ตัวนั่นเอง

โปรแกรมแอนตี้ไวรัส



 
  1.Panda Cloud Antivirus 1.0 เป็นโปรแกรมสแกนไวรัส ที่พัฒนามาจากค่าย   Panda มีการสแกนไวรัสจากเซิร์ฟเวอร์ของ PandaLabs โดยที่ Panda Cloud Antivirus 1.0  เป็นโปรแกรมสแกนไวรัสรูปแบบใหม่ โดยเปลี่ยนแนวคิดของโปรแกรมแอนตี้ไวรัสแบบเดิมๆ มาเป็นการทำงานผ่าน cloud computing แทน Cloud คอมพิวเตอร์ที่อยู่ตามที่ต่างๆ ทั่วโลก และเชื่อมต่อกันด้วยอินเตอร์เน็ต และทำงานร่วมกัน cloud คือซุปเปอร์คอมพิวเตอร์แบบหนึ่งนั่นเอง แนวคิดของ Panda Cloud Antivirus คือการออกแบบให้โปรแกรมมีขนาดเล็ก เบา ใช้พื้นที่และทรัพยากรเครื่องคอมพิวเตอร์น้อย และได้ย้ายการทำงานหลักๆ ออกไปทำงานบนเซิฟเวอร์ cloud แทน ไม่ว่าจะเป็น realtime protection, fully scanning, และข้อมูล      ของไวรัสที่ออกมาใหม่


  nod32box
      2.NOD32 Antivirus System เป็นโปรแกรมป้องกันไวรัส ที่สามารถอัพเดทข้อมูลไวรัสตัวใหม่ได้แบบอัตโนมัติ และยังใช้ระยะเวลาในการอัพเดทน้อยมาก ด้วยความสามารถของ NOD32 สำหรับ Windows ที่จะปกป้องคุ้มครองคอมพิวเตอร์ของเรา โดยเราจะไม่ต้องกังวลกับไวรัสที่น่ารำคาญอย่าง Netsky, Mydoom หรือ Lovebug อีกต่อไป NOD32 เป็นโปรแกรมใช้งานได้ง่ายและให้ความปลอดภัยระดับองค์กร หลังจากที่ติดตั้งเสร็จสิ้น AMON ผู้ดูแลตรวจสอบระบบตลอดเวลา จะทำงานอยู่ด้านหลัง ช่วยให้คอมพิวเตอร์ของคุณปลอดภัย IMON ผู้ดูและตรวจสอบอีเมล์ จะสแกนไวรัส ในทุกๆอีเมล์ที่คุณได้รับ และตรวจหาไวรัสและทำการกำจัดก่อนที่ไวรัสจะมีโอกาสเข้ามาและทำร้ายเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรา และเมื่อมีการอัปเดทใหม่ๆเข้ามา, NOD32 จะทำการอัปเดทโดยอัตโนมัติ